1. ใบหน้า คือ สง่าราศี
การที่ต้องออกไปพบปะผู้คนในสังคมเรามักจะมองกันที่ใบหน้าโดยเฉพาะในส่วนของ “แววตา” (ถ้ามองส่วนอื่นก็คงดูเป็นการเสียมารยาท) หากไม่มีการแต่งหน้าแต่งตาให้ดูมีสง่าราศีจะส่งผลให้ความมั่นใจของหดหายไป การจะทำสิ่งใดๆก็มักจะมีปัญหาติดขัดตลอด โอกาสประสบความสำเร็จจึงเป็นไปได้ยาก
2. ใบหน้า คือ จุดเรียกทรัพย์
แม้จะมั่นใจในความสวยของ “หน้าสด” แต่คนอื่นที่มองมาอาจจะไม่คิดเช่นนั้น หากเราปล่อยหน้าให้หน้าโล้น หน้าไม่สวยงาม ไร้สง่าราศี เวลาที่คนอื่นมองมาอาจจะรู้สึกไม่สบายตา เหมือนเป็นการขัดทรัพย์ ดังนั้นควรจะแต่งหน้าให้ดูผ่องขึ้นมาบ้าง เมื่อหน้าตาดูดีแล้วจิตใจก็ผ่องใสตามเหมือนการเปิดประตูกระตุ้นโชคลาภ
3. ใบหน้าดูดีทำให้ความรักสดใส
การแต่งหน้าเปรียบเสมือนสัญญาณว่าตัวเรานั้นเกิดความมั่นใจ รู้จักใส่ใจดูแลตัวเอง สิ่งที่แสดงออกมาจึงเป็นเหมือนพลังที่ทำให้คนรอบข้างและคนที่เรารักรู้สึกดี ส่งผลให้ความรักความสัมพันธ์กระชุ่มกระชวยและมีความสุข กลับกันถ้าใบหน้าแลดูเหี่ยวเฉาก็เหมือนสัญญาณลบที่แสดงถึงความทุกข์ ความเศร้าหมอง
4. ใบหน้าสวยงามส่งผลให้สุขภาพดี
ใบหน้าที่ผ่านการแต่งเติมให้ดูดีย่อมส่งผลที่ต่อจิตใจ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะการมีใบหน้าที่ดูดียังส่งผลไปยังร่างกายให้รู้สึกถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง เมื่อมีใบหน้าดูดีก็จะกลายเป็นพลังที่ทำให้สุขภาพร่างกายดีตามไปด้วย ในส่วนนี้เรียกว่าทั้งสวยและสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน
5. ใบหน้าสวยส่งผลต่อมนุษยสัมพันธ์
ต่อให้มีความรู้ความสามารถหรือเก่งกาจมาจากไหน แต่ถ้าไม่สามารถผ่านประตูด่านแรกเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ การมีภาพลักษณ์ที่สวยสง่าย่อมทำให้มีความได้เปรียบมากกว่า ได้รับความเมตตาจากคนรอบข้างมากกว่า ดังนั้นการแต่งหน้าให้ดูดีจึงส่งผลโดยตรงด้านมนุษยสัมพันธ์กับผู้คน
ก่อนจากกันไปขอฝากทิ้งท้ายเอาไว้ว่าแม้จะมีใบหน้าที่ผ่านการแต่งจนเกิดความสวยงาม แต่หากจิตใจเศร้าหมอง จิตใจไม่สวยงาม การแต่งหน้าที่ดูสวยงามนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า พลังและคุณค่าที่มีจะไม่เต็มร้อย เพราะฉะนั้นหากคุณอยากจะเป็นคนดี ที่โชคดีและประสบความสำเร็จในชีวิต ใบหน้าสวยและจิตใจที่งามจึงเป็นสิ่งที่ต้องมีควบคู่กัน